1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba Red
- Infrared Sensors ที่ทําให้เดินไปตามกําแพงได้ ไม่ตกบันได - Wheel-drop Sensors ที่ทําให้หยุดเมื่อถูกยก - Bump Sensors ที่ช่วยให้หลบหลีกเฟอร์นิเจอร์และสิ่งกีดขวางต่างๆบนพื้นได้ - ทําความสะอาดได้ทุกพื้นผิวห้องไม่ว่า จะเป็น พรม ไม้ปาร์เก้ กระเบื้อง กระเบื้องยาง เสื่อน้ํามัน หรือ อื่นๆ โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคน - สะอาดกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่า - ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบแผ่นยางและแปรงที่หมุนสวนทางกันในการเก็บเศษผงชิ้นใหญ่ กับหัวดูดความเร็วสูงเพื่อดูดฝุ่นผงเล็กๆ และแปรงข้างที่จะหมุนด้วยความเร็ว เพื่อปัดฝุ่นผงจากขอบมุมเข้าสู่หัวดูด - รูปร่างที่เหมือนจานบิน ทําให้ Roomba สามารถเข้าไปใต้ตู้ เตียง โซฟา หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปไม่สามารถทําได้ - Roomba มีอัตราครอบคลุมพื้นที่ของห้องสูงที่สุด (CPR= Coverage Per Room) เมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นทุกชนิดทั้งชนิดหุ่นยนต์และชนิดธรรมดา - ฐานชาร์จแบตเตอรี่ โฮมเบส --- หุ่นยนต์ iRobot มีระบบกลับฐานชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ เมื่อแบตเตอรี่อ่อนลงหรือเมื่อทําความสะอาดเสร็จ - การทําความสะอาดอย่างชาญฉลาด --- เพียงแค่กดปุ่ม clean Roomba จะคํานวณเวลาที่ใช้ทําความสะอาดของห้องนั้น และจะเริ่มทํางาน ระหว่างการทํางาน Roomba จะทําการคํานวณข้อมูลใหม่ 67 ครั้งต่อนาที เพื่อให้ความมั่นใจว่าได้ครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมด - ระบบชาร์จและเก็บกําลังไฟ APS --- ระบบประมวลผลโดย Microprocessor ควบคุมการชาร์จไฟให้ใช้งานได้ถึง 90 นาที โดยกินเวลาชาร์จไฟเพียงแค่ 3 ชั่วโมง ด้วยระบบกําลังไฟนี้ ทําให้หุ่นยนต์สามารถทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด - มี Virtual Wall เป็นกําแพงที่คนมองไม่เห็น แต่หุ่นยนต์เห็น ช่วยกําหนดอาณาเขตให้หุ่นยนต์ทํางานเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการ - มี Home Base ซึ่ง Roomba จะกลับมาได้เองเมื่อทําความสะอาดเสร็จ หรือ แบตเตอรี่ใกล้หมด - การใช้งานง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่ม power เปิดเครื่อง แล้วกดปุ่ม clean หรือ spot เพื่อเริ่มทําความสะอาด iRobot